วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล

เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูล

ปัจจุบันหากใครไม่รู้จักคำว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-commerce ละ ก็ คงจะเชยเต็มที แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ระบบดังกล่าวอาจจะเปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิมที่เคยทำการ ค้าขายกันทางอินเทอร์เน็ตผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ ไปเป็นระบบที่ทำการค้าขายกันผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือเรียกว่า "พาณิชย์สัญจร m-commerce" (มาจากคำว่า
mobile-commerce)

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 จนถึงปัจจุบันยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่นสูงถึงกว่า 10 ล้าน เครื่องและยังคงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จน แอนดริว วินสตัน หัวหน้าศูนย์วิจัยด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์ของมหาวิทยาลัยแห่งเทคซัส ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองออสติน เกิดความสนใจและทำการศึกษากรณีดังกล่าว

วิ นสตัน นี่เองเป็นผู้ให้นิยามคำว่า "
m-commerce" ซึ่ง หมายถึงรูปแบบการทำธุรกิจผ่านโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถในการเชื่อม ต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต โดยเขาเชื่อว่านี่คือรูปแบบของการติดต่อค้าขายในอนาคตอันใกล้นี้

วิ นสตัน ได้ยกตัวอย่างระบบธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งได้แก่บริการด้านความบันเทิงอย่างเช่นการเล่นเกมออนไลน์ผ่านทางโทรศัพท์ มือถือ หรือการบริการข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือต้องการทราบรวมทั้งการแข่งขันชิงรางวัลและการประมูล แบบออนไลน์ด้วย

ในงาน
E3 ซึ่งเป็นมหกรรมการแสดง ด้านเทคโนโลยีประจำปีที่เพิ่งปิดฉากลงไป บริษัท โนเกีย และ อเมริกา ออนไลน์ ต่างออกมาคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจการให้บริการความบันเทิงแบบออนไลน์ผ่านทาง โทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น

โดย บริษัทผู้ริเริ่มธุรกิจดังกล่าวก็คือบริษัท
NTT DoCoMo ยักษ์ใหญ่ในวงการโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่นซึ่งสามารถขายเครื่องโทรศัพท์มือ ถือรุ่น "DoCoMO i-Mode" ได้ถึง 6 ล้านเครื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา

โทรศัพท์มือถือรุ่น
i-Mode นี้มีจุดเด่นตรงที่ผู้ใช้เครื่องสามารถเล่นเกมแบบออนไลน์แข่งขันกับเจ้าของ เครื่อง i-Mode คนอื่นๆ ได้ โดยเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเกม Fish ซึ่งเป็นเกมตกปลาที่ผู้เล่นสามารถเลือกชนิดของบ่อน้ำ, เหยื่อ, ความ ลึกของบ่อ และชนิดของปลาในบ่อ หลังจากนั้นก็ร่วมตกปลากับผู้เล่นคนอื่นแบบออนไลน์ได้ โดยที่ผู้ร่วมเล่นเกมนี้ต้องจ่ายเงินค่าเล่นให้กับทาง NTT ด้วย

อย่าง ไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าบริการต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนั้นยังมีข้อจำกัดอยู่ที่อัตราการรับส่ง ข้อมูลที่ต่ำมากและขนาดของจอภาพที่เล็กและแสดงสีสันได้น้อยเกินไป อย่างไรก็ตามพวกเขาเชื่อว่าในที่สุดแล้วบรรดาผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจะสามารถ แก้ไขข้อจำกัดต่างๆ ได้และจะทำให้ธุรกิจนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจทำเงินมหาศาลที่ใครก็ไม่อาจมองข้าม ไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้



อันนี้ข้อมูลจากนักศึกษาทำเวิร์คช็อป เมื่อ ม.ค. ปีนี้ (53)
ว่าด้วยเรื่อง M-Commerce
ความหมายของ M-commerce
               
M-commerce คือ การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม หรือการเงิน โดยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือการค้าขายตามระบบแนวความคิดของระบบการค้าอิเล็กทรอนิกส์ E-Commerce ที่ใช้อุปกรณ์ไร้สายเป็นเครื่องมือในการสั่งซื้อ
ขอบเขตของ M-commerce

               M-commerce ครอบคลุมทั้งการดำเนิน ธุรกรรมระหว่างผู้ดำเนินธุรกิจ กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
(Business to Customer หรือ B to C และระหว่างผู้ดำเนินธุรกิจด้วยกันเอง (Business to Business หรือ B to B)

ลักษณะของ M-commerce

•              ความสามารถเคลื่อนย้าย (Mobility) เป็นจุดดึงดูดที่ น่าสนใจ

•              ความสามารถเข้าถึง (Reach ability) หมายถึง บุคคลสามารถติดต่อ ณ เวลาใด ๆ (At any time) ที่ท่าน

สามารถกําหนดได้

ปัญหาสำคัญของระบบไร้สาย

1.             ระบบไร้สายใช้อัตราการรับส่งข้อมูลได้ต่ำ

2.             ค่าบริการค่อนข้างแพง

3.             โมเด็มรับส่งแบบคลื่นวิทยุ ใช้กำลังงานไฟฟ้าสูง

สาเหตุที่ M-Commerce ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

•              ทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ ประหยัดเงิน และเป็นช่องทางโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจ

•              สามารถใช้ M-Commerce ได้ทุกที่ทุกเวลา และอุปกรณ์ที่ใช้ก็มีน้ำหนักเบาด้วย

•              ระบบ M-Commerce ช่วยนำผู้ซื้อและผู้ขายให้มาพบกันด้วยวิธีที่ง่ายสะดวก

สถาปัตยกรรมและหลักการทำงานของ M-Commerce
  สถาปัตยกรรมของ WAP การรับส่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ตไม่สามารถรับ-ส่งได้ดีในเครือข่ายไร้สาย เนื่องจากโพรโตคอล TCP ทำ งานได้ไม่ดีในเครือข่ายไร้สาย และอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือยังมีความสามารถไม่พอที่จะประมวลผลข้อมูลในระบบอิน เทอร์เน็ต ดังนั้นจึงได้ทำการแก้ไขโดย เมื่อต้องการส่งข้อมูลจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ไปยังโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลนั้นจะถูกส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ใช้โพรโตคอล TCP/IP มาให้แก่ ตัวกลางที่เรียกว่า WAP Gateway

WAP Gateway ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายไร้สายในการ รับ-ส่งข้อมูลระหว่าง WAP Gateway กับเว็บเซิร์ฟเวอร์

WAP Forum คือ องค์กรกลางระหว่างประเทศที่ตั้งขึ้นมา เพื่อมีจุดประสงค์ในการเป็นผู้กำหนดมาตรฐานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ ข้อมูลผ่านทางโครงข่ายไร้สาย บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบดิจิตอล และอุปกรณ์สื่อสารไร้สายอื่นๆ

Web WEP  เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่สนับสนุนเทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยผู้ใช้งานสามารถที่จะใช้บริการต่างๆ ที่อยู่บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผ่านเทคโนโลยีแว็พได้เช่นเดียวกับที่ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตทั่วๆ ไป

ประโยชน์ของ M-COMMERCE

1.  ช่วยให้สามารถสั่งซื้อสินค้าหรือสั่งจองตั๋วหนังได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อเอง

2.  สามารถให้พนักงานในองค์กรต่างๆ สามารถเข้าดู และเช็ค e-mail ที่ใช้ในบริษัทได้อย่างสะดวกสบายบนโทรศัพท์มือถือ

3.  Mobile Internet เป็นระบบที่ทำให้ผู้ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จากโทรศัพท์มือถือทุกที่ทุกเวลา

4.   สามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารจากทั้งผู้ให้บริการทั่วโลกในอัตราค่าบริการเดียวกัน

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ M-Commerce



1.    เครือข่ายโทรคมนาคมไร้สาย เป็นเครือข่ายดิจิตอลที่มีการส่งผ่าน ข้อมูลในลักษณะ IP (Internet Pocket) โดยแบ่งข้อมูลออกเป็นแพ็ค และทําการส่งข้อมูลเป็นช่วงๆ ทําให้สามารถส่งข้อมูลจากหลาย แหล่ง และหลายๆ
ข้อมูลได้พร้อมกันในเวลาเดียว

2.  อินเตอร์เน็ต เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปแบบ การดําเนินชีวิต การศึกษา การทําธุรกิจ การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และอื่นๆ เนื่องจากอินเตอร์เน็ตช่วยให้การ สื่อสารระหว่างกันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

3. WAP(Wireless Application Protocol) เป็นเทคโนโลยีทาง ด้านภาษาที่ใช้ในเขียนโปรแกรมเพื่อ นําเสนอขอมูลผ่านทางเว็บไซด์ ซึ่งใช้งานผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากการเปลี่ยนอุปกรณ์รับปลายทางจาก คอมพิวเตอร์ซึ่งใช้ภาษา HTML ( Hypertext)

 บทความนี้มาจากปริญญานิพนธ์  เอ็มคอมฯ

ความเป็นมาของ M-Commerce
เนื่อง จากการขยายตัวด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ นวัตกรรมด้านระบบการสื่อสารไร้สาย และความแพร่หลายของการดำเนินธุรกิจในรูปแบบของอีคอมเมิร์ซ มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่เพื่อให้เข้าถึง กลุ่มลูกค้ามากที่สุด เป็นผลให้ระบบการค้ารูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ระบบการค้ามือถือ หรือ M-Commerce ถือกำเนิดขึ้น ภายใต้ Concept ที่ว่า การค้าสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานที่ ทุกเวลา และทุกโอกาส การดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้ เป็นกระบวนการในการสร้างรายการทางการค้า (Commercial Transactions) ผ่านเครือข่ายโทรคมนาคมเคลื่อนที่ (Mobile Telecommunications networks) โดยอาศัยการสื่อสาร ข้อมูล และอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ PDA หากพิจารณารูปแบบของ M-Commerce นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ยุคด้วยกันคือ ยุคที่เริ่มมีการใช้ SMS (Short Messages Services) ซึ่งนับได้ว่าเป็นยุคแรก สำหรับยุคที่สองนั้นเป็นยุคที่มีการนำเอา WAP (Wireless Application Protocol) มา ใช้เพื่อการติดต่อผ่านเว็บ ในขณะที่ยุคที่สามเป็นการก้าวเข้าสู่เรื่องของบรอดแบนด์ ซึ่งผู้ใช้มีความต้องการความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลที่สูงขึ้น ในขณะที่การส่งข้อมูลจะเป็นการเน้นในเรื่องของการรับ-ส่งภาพ (Image) และภาพเคลื่อนไหว (Video Clip) นอกเหนือจากเรื่องของเสียง (Voice) และข้อความ (Text) อย่างที่ผ่านมา และการใช้เทคโนโลยี “Always on” เพื่อการเชื่อมต่อตลอดเวลา SMS เป็นจุดเริ่มที่สำคัญในการดำเนินการค้าในลักษณะของ M-Commerce และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านสังคม โดย SMS จะเป็นการส่งข้อมูลสั้นๆ (มีความยาวไม่เกิน 160 ตัวอักษร) ผ่าน
โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งในระยะเริ่มแรกนั้น การใช้ SMS จะ มีวัตถุประสงค์ในการแจ้งเตือนเจ้าของโทรศัพท์มากกว่าจะเป็นการนำมาใช้ เพื่อวัตถุประสงค์อื่น และมีการนำมาใช้อย่างกว้างขวางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ อย่างเช่น ในระหว่างปี ค.ศ. 2000 ทวีปยุโรปมีการใช้งาน SMS มากถึง 2 พันล้านข้อความต่อเดือน แม้ว่าการสื่อสารในลักษณะของ SMS จะ เป็นที่แพร่หลาย และถูกนำมาใช้ในการติดต่อสื่อสาร แต่ในยุคที่ผู้คนต่างก็มีความจำเป็นในการค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต และการเข้าถึงบริการต่าง ๆ จากเว็บไซต์ ทำให้ WAP ได้รับการพัฒนาขึ้นมา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในช่วงปลาย ค.ศ. 1999 ถึงต้นปี ค.ศ. 2000 ทำให้ผู้ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถที่จะใช้บริการ หรือโต้ตอบผ่านเว็บไซต์ต่างๆได้ รูปแบบของการใช้ WAP จึงเป็นการ


เข้าใกล้รูปแบบการค้าในลักษณะที่เป็น M-Commerce มาก ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจที่ดำเนินการค้าอยู่ในปัจจุบันมีการพัฒนาระบบที่ เกี่ยวข้องกับการขาย และการให้บริการผ่านเว็บไซต์ทั้งสิ้น รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านอุปกรณ์สื่อสาร ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, PDA (Personal Digital Assistant) และอุปกรณ์ด้านคอนซูมเมอร์อื่นๆ อันได้แก่ Walkman, กล้องดิจิตอล ฯลฯ จึงทำให้เกิดรูปแบบการดำเนินธุรกิจ และบริการใหม่ๆ ในลักษณะของ M-Commerce เกิดขึ้นมากมาย โดย I-Mode เป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ คือ มีจำนวนหน้าของผู้เข้ามาใช้บริการถึง 40 ล้าน Hits ต่อวัน (ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บได้มากถึง 6 พันเว็บ) และ Yahoo ที่ประเทศญี่ปุ่นมีมากถึง 80 ล้าน Hits ต่อวัน

สำหรับ ประเทศไทย แล้ว กำลังเริ่มเข้าสู่ยุคที่สาม นั่นคือ การที่เครือข่ายไร้สายกำลังอยู่ในขั้นที่สามารถช่วยให้การรับ-ส่งข้อมูลมี ความเร็วที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ GPRS (General Package Radio Service) หรือ การให้บริการของผู้ให้บริการรายใหม่ โดยอาศัยเทคโนโลยีของ CDMA (Code Division Multiple Access) การรับ-ส่งข้อมูลในรูปแบบของเสียง (Voice) และข้อมูล (Text) จะเปลี่ยนไปสู่มัลติมีเดีย อย่างไรก็ตาม บริการ SMS ยังเป็นบริการที่กำลังสร้างรายได้ให้กับผู้ให้บริการ แม้ว่าความแพร่หลายจะล่าช้า